แนวคิดในการออกแบบ

โครงการเริ่มที่ ทางบริษัท ปิยะสมบัติ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซื้ออาคารร้างสูง 6 ชั้น ที่อยู่ถัดจากอาคารวรสมบัติ สูง 22 ชั้นบนถนนพระราม 9 เพื่อทำเป็นสำนักงาน + ส่วนร้านค้า 2 ชั้นล่างสำหรับ Support สำนักงานในพื้นที่ ทางสถาปนิกจึงเข้าไปศึกษารูปแบบอาคารเดิม พบว่าเป็นสำนักงานที่มีการวางพื้นที่เช่าไว้ตรงกลาง และ ขนาบข้าง ด้วยลิฟต์ + บันได ข้างละ 1 ชุด โดยด้านซ้ายมีความสูง 6 ชั้น และด้านขวามีความสูง 5 ชั้น

การวางผังอาคารใหม่จึงใช้ลักษณะของอาคารเดิมที่เหมือนเป็นอาคารสองหลังที่อยู่ติดกัน มาเป็นจุดเริ่มต้นของการออกแบบ ซึ่งเป็นที่มาของการใช้ “แฝดสยาม” (Siamese Twins) เป็นแนวความคิดหลัก โดยวางพื้นที่เช่าที่สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วน ที่มีการเข้าถึงแยกกันได้ จากลิฟต์และบันไดในแต่ล่ะข้าง เพื่อสร้างสมดุลให้ทั้งสองข้างมีการใช้งานเท่าๆกัน รวมถึงการที่สามารถแบ่งพื้นที่เช่าได้ ทำให้การบริหารพื้นที่ทำได้ง่ายขึ้น

อาคารเดิม

หลังรีโนเวท

การออกแบบ Facade

ในส่วนของ Facade อาคารถูกออกแบบโดยใช้ Concept เดียวกับการวางผัง ในการทำให้ตัวอาคารเหมือนเป็น 2 อาคารที่มาอยู่ติดกัน โดยส่วนของปล่องลิฟต์ และบันไดที่ทึบตัน ใช้เป็น Aluminum Grill ที่นำมาจัดเรียงเพื่อสลายความหนักของโครงสร้าง และสร้างมิติเพื่อความน่าสนใจของตัวอาคาร แต่ในส่วนของพื้นที่เช่าสำนักงาน ใช้เป็นกระจกเรียบเพื่อเปิดมุมมองสู่ภายนอก และสามารถเป็น Window Display สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์บนทางยก
ระดับหน้าโครงการ

การสร้างความแตกต่างของ Facade อาคารทั้งสองฝั่ง ทางผู้ออกแบบเลือกใช้เป็นสีของวัสดุที่ต่างกัน โดยเลือกใช้เป็นสี Anodized Gold สำหรับส่วนอาคารสูง 6 ชั้น และสี Anodized Silver สำหรับส่วนอาคารสูง 5 ชั้น เพื่อสื่อสารในแง่สิริมงคล ตามชื่ออาคารเดิมก่อนปรับปรุง (ว่องวาณิชย์)

ในส่วน Facade ที่เป็น Aluminum Grill นอกจากใช้เพื่อลดทอนความทึบตันขอโครงสร้างเดิมแล้ว ยังใช้เป็นส่วน Facade ของพื้นที่ส่วนกลางแต่ล่ะชั้น (โถงลิฟต์ บันได และส่วนบริการ) สร้างพื้นที่ Transition Space ระหว่างพื้นที่เช่า และส่วน Circulation สำหรับการปรับตัวของผู้ใช้งานและลูกค้า ไม่ให้เกิดการปรับเปลี่ยนที่รวดเร็วเกินไประหว่างพื้นที่ควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิ กับพื้นที่ที่ใช้แสงและอากาศธรรมชาติ

การออกแบบ Pattern ของ Facade ระหว่างส่วนที่เป็น Aluminum Grill และส่วน Window Display ทางผู้ออกแบบไม่ต้องการให้เห็นรอยต่อของแนวโครงสร้างเดิม เพื่อเพิ่มความเบาให้แก่ตัวผิวอาคาร จึงขยับแนวรอยต่อระหว่างกระจกกับ Aluminum Grill ให้ในแต่ล่ะชั้นไม่ตรงกัน รวมถึง Pattern ของกระจกที่วางแบบ Random เพื่อรองรับความหลากหลายของผู้เช่าแต่ล่ะพื้นที่ ไม่ให้ดูขัดแย้งกับงานผิวอาคาร

วางบันไดตรงรอยต่อ Facade

จากการใช้งานที่ถูกวางไว้ให้ 2 ชั้นล่างมีการใช้งานเป็นร้านค้าเพื่อ Support พื้นที่เช่าข้างบน และอาคารใกล้เคียงบันไดที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็น Sculpture ถูกวางไว้ตรงจุดรอยต่อของ Facade ที่กึ่งกลางอาคาร เพื่อใช้เป็นจุดสนใจของอาคาร และใช้เชื่อมต่อพื้นที่ร้านค้าเข้าด้วยกัน ในการออกแบบส่วนของบันไดกลาง มีการใช้ภาษาและวัสดุของทั้งสองฝั่ง ดังนั้นตัวบันไดจึงทำหน้าที่เป็นส่วนเชื่อมต่อ ทั้งในแง่สัญลักษณ์ และการใช้งานจริง

ส่วน Plaza

การออกแบบส่วน Landscape ที่จากเดิมทั้งส่วนอาคารที่ทำการปรับปรุง และอาคารวรสมบัติที่อยู่ข้างเคียง ใช้พื้นที่หน้าอาคารเป็นถนน และที่จอดรถ รวมถึงถูกตัดขาดออกจากกันด้วยถนนที่เชื่อมไปอาคารจอดรถด้านหลังทำให้การใช้งานของทั้งสองอาคาร (เจ้าของเดียวกัน) ไม่ต่อเนื่อง ทางสถาปนิกจึงออกแบบ Plaza + Green Area หน้าอาคารที่เชื่อมทั้ง 2 อาคารไว้ด้วยกัน โดยยังสามารถใช้เป็นที่จอดรถ หรือใช้รองรับกิจกรรมที่หลากหลายขึ้น เช่น Flea Market เป็นต้น อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมต่อระหว่างอาคารไปสู่ ทางเท้าสาธารณะหน้าโครงการด้วย

Vorasombat Plaza | Space Story Studio