ชักโครก หรือ โถส้วม ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของโครงการต่างๆ ที่นักออกแบบหลายๆ คนมองข้ามไป แต่จริงๆแล้ว ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีในห้องน้ำทุกๆ ที่ และมักถูกใช้งานทุกๆ วัน บทความนี้ เราจะมาพูดถึง วิธีเลือกชักโครก และเจาะลึกถึงประเภทพื้นฐานของโถส้วมแต่ละแบบ ว่ามีแบบไหนบ้าง รุ่นไหนดี ต้องดูที่ปัจจัยอะไร
โถส้วมคืออะไร
เชื่อว่าเบื้องต้นแล้ว ทุกคนต้องรู้จักชักโครกกันอยู่แล้วว่ามันคืออะไร เพราะทุกๆ คนต้องเคยผ่านการใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้มาอย่างแน่นอน นิยามสากลของหน้าที่โถส้วม มีหน้าที่หลักอยู่ 2 ข้อ เรียกว่า “Golden Rules” คือ
- ทำหน้าที่แยกผู้ใช้อาคาร ออกจากของเสีย
- ทำหน้าที่ขนส่งของเสียไปบำบัด และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อม
ชักโครกนั้น นอกจากจะเป็นสถานที่ที่หลายๆ คน ชอบนั่งคิดไอเดียต่างๆ, เล่น Instagram และ ตอบอีเมลล์ แล้ว ยังต้องช่วยให้ User มีสุขภาพที่ดีด้วย
ถึงแม้ว่าการออกแบบดีไซน์โถส้วมนั้น จะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนักในหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบัน ก็มีชักโครกรุ่นใหม่หลายๆ รุ่น ที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีเสริมเข้าไปเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่น หลายๆโมเดล ที่มีการเพิ่ม การบรรเลงเสียงเพลง, ไฟล LED, การอุ่นฝารองนั่ง และ ที่พ่นน้ำสำหรับทำความสะอาด เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้น ยังเริ่มมีการพัฒนาฟังก์ชั่นที่ล้ำขึ้นไปอีกมากขึ้น อย่างเช่น การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต, การติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ และ AI ที่คอยเช็คลักษณะของเสียว่ามีโอกาสที่จะแสดงถึงโรคภัยใดๆ หรือไม่ ช่วยให้คนสามารถทราบสถานะสุขภาพเบื้องต้นของตนเองได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ความยั่งยืน
ความยั่งยืนหรือ Sustainability ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงใน วิธีเลือกชักโครก เพราะในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะภารกิจในห้องน้ำ ถือเป็นกิจกรรมที่ต้องคอยระวังเพราะมีการใช้ปริมาณทรัพยากรเป็นจำนวนมาก สำหรับโถส้วมแบบธรรมดาทั่วไป การกดชักโครกแต่ละครั้ง จะใช้ปริมาณน้ำถึง 16 ลิตร เลยทีเดียว ซึ่งมีการทำแบบสำรวจพบว่า โดยเฉลี่ย การชักโครกนั้น ใช้น้ำเป็นอัตราส่วมถึง 30% ของการใช้น้ำในบ้านทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมการออกแบบและผลิตโถส้วม ก็มีการพยายามพัฒนาประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำให้สูงขึ้น ซึ่งก็มีหลายโมเดล ที่มีการปรับปรุงการใช้น้ำให้น้อยลง โดยที่ยังทำความสะอาดได้อย่างหมดจรด
มีกี่ประเภท
เราสามารถแบ่งประเภทของโถส้วมจากหลักการทำงานของมันได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
Flush Valve
เป็นรูปแบบที่ราคาถูกที่สุด และเป็นที่นิยมที่สุด แต่มีการใช้น้ำต่อการกดชักโครก 1 ครั้ง ในปริมาณที่เยอะที่สุด ผลลัพธ์คือได้แรงดันน้ำ และจำนวนน้ำไหลมากที่สุดนั่นเอง
ระบบจ่ายน้ำของโถส้วมชนิดนี้ มีการติดตั้งอยู่ภายในผนัง ทำให้เป็นโมเดลที่กินพื้นที่น้อย สามารถนำไปใช้ติดตั้งในห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัดได้ดี
โถส้วมแบบ Flush Valve นั้น นิยมใช้ในอาคารสาธารณะทั่วไป โดยจะสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามห้องน้าตามสถานที่นอกบ้าน เช่น ห้องน้ำห้างสรรพสินค้า, ห้องน้ำสวนสาธารณะ หรือห้องน้ำอาคารราชการ เป็นต้น
Close-Coupled
ข้อดีขอประเภทนี้คือ มีความง่ายในการติดตั้ง และใช้ปริมาณน้ำที่น้อยลงเมื่อเทียบกับแบบ Flush Valved โดยจะมีตัว Tank ติดตั้งอยู่ด้านบนหลังผู้ใช้งาน เวลากดชักโครก น้ำจะถูกปล่อยลงมาจากถังดังกล่าวในปริมาณไม่เยอะเกินไป ให้ไหลลงเพื่อทำความสะอาด
Pressure Assisted
เป็นรูปแบบที่มีราคาสูงที่สุด และใช้ปริมาณน้ำน้อยที่สุด แต่ได้ผลดี เพราะมีการติดตั้งระบบแดงดัน ทำหน้าที่ดูดของเสียลงไปยังท่อระบายน้ำด้านล่างด้วย ไม่ได้อาศัยแรงจากการไหลของน้ำอย่างเดียว
รูปลักษณ์ภายนอก ก็จะเหมือนกับแบบ Close-Coupled คือเป็นถังด้านบนติดตั้งบริเวณหลังผู้ใช้งาน แต่นอกจาก Tank เก็บน้ำ จะมีระบบ Pressure ติดตั้งอยู่ภายในตัวถังด้วย ทำให้มีราคาสูงที่สุด
วิธีเลือกชักโครก
หลังจากทราบพื้นฐานแล้วว่าโถส้วมแบ่งได้เป็นการประเภทตามลักษณะกลไกการทำงาน เรามาดูปัจจัยสำคัญ ที่ต้องคำนึงถึงใน วิธีเลือกชักโครก กัน โดยเว็บแบบดีดี ขอแบ่งเป็นหัวข้อให้อ่านกันง่ายๆ ดังนี้
ความเสถียร และทนทาน
ความทนทานถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากใน วิธีเลือกชักโครก สักตัวมาติดตั้งใช้งาน เพราะโถส้วม ถือเป็นสิ่งที่ติดตั้งแล้ว ไม่สามารถซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอันใหม่ได้ง่ายๆ เหมือนเฟอร์นิเจอร์ชนิดอื่นๆ ดังนั้น เราต้องเลือกรุ่นที่ได้รับมาตรฐาน มีวัสดุที่ดี มั่นใจได้ว่าใช้งานได้ยาวนาน
ด้วยเหตุนี้ การคำนึงถึงคุณภาพ จึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องนึกถึงก่อนปัจจัยอื่นๆ เพื่อให้ตัวโถสามารถใช้งานได้ยาวนานไม่เกิดปัญหาใดๆ นอกจากนนี้ การเลือกซื้อ ต้องคำนึงถึงมาตรฐานแบรนด์ การรับประกัน ของตัวสินค้าไว้ด้วย
วัสดุ
การเลือกสไตล์วัสดุนั้น ขึ้นกับสไตล์ของห้องน้ำด้วย ไม่ว่าจะเลือกใช้สแตนเลสม เหล็ก โพลีเมอร์ เซรามิค และอื่นๆ ก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน แต่จะให้ความรู้สึก ดีไซน์ และความสวยงามที่ต่างกัน
สี
ถึงแม้เราจะพบเห็นโถส้วมทั่วไปส่วนใหญ่ ว่ามักจะถูกเลือกใช้สีเป็นสีขาวเป็นหลัก แต่จริงๆแล้ว เราสามารถเลือกออกแบบเป็นสีอื่นๆ ได้หลากหลายโทน ผสมผสานกันได้ตามต้องการเช่นกัน เพียงแต่ต้องมั่นใจว่าภาพรวมของสีตัวโถนั้น มีความเข้ากันกับองค์ประกอบการดีไซน์ในส่วนอื่นๆ ของตัวห้องน้ำ
สัดส่วน
ความสูง และความกว้าง ก็ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญในหัวข้อ วิธีเลือกชักโครก โดยแนะนำว่าความยาวควรจะอยู่ที่ประมาณ 70 เซนติเมตร ในขณะที่ความสูงของที่นั่ง ควรจะอยู่ที่ 40 เซนติเมตร เพื่อความสะดวกสบายในการนั่ง
ในส่วนพื้นที่ด้านหน้าของโถ ควรเผื่อที่ว่างไว้อย่างต่ำ 60 เซนติเมตร หรือมากกว่านั้น เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นเสริม
ปัจจุบัน ในตลาดซื้อขาย มี Option โถส้วมใหม่ๆ ให้เลือกซื้อกันมากมาย ซึ่งอาจจะทำให้เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ถ้าเราไม่รู้จริงๆ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ดังนั้น จึงต้องศึกษาฟังก์ชั่นพิเศษ และเทียบราคาชักโครกแต่ละรุ่นให้ดีเช่น
- ตรวจสอบปริมาตรความสามารถในการระบายของเสีย
- ชนิดของ Hydraulic Motor ที่สร้างแรงดันน้ำ
- ความสะอาดภายในตัวโถหลังการกดชักโครก เพื่อลดปริมาณเชื่อโรคและแบคทีเรีย
- ระยะเวลาในการชักโครกแต่ละครั้ง (2.5 วินาทีถือเป็นค่ามาตรฐานที่ดี)
ตัวอย่างแบบดีไซน์ห้องน้ำ